วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางตัวรุก เพลย์เมกเกอร์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลาง - ตัวรุก ลิเวอร์พูล เจ้าของผลงาน เพลย์เมกเกอร์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างจังหวะอันตรายให้แก่คู่แข่ง การผ่านบอล หรือแม้แต่การทำประตูที่เฉียบขาด

ผลงานในระดับสโมสรของฤดูกาล 2016-17 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 36 นัด รวมทุกรายการ ซัดไปแล้ว 14 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ ในส่วนของผลงานระดับทีมชาติของเจ้าตัว ลงสนามทั้งสิ้น 25 นัด ยิงไปแล้ว 7 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้ ลิเวอร์พูล กลับมาสู่ทีมระดับท็อปโฟร์ได้อีกครั้ง โดยในปี 2013-14 พาทีมคว้ารองแชมป์ลีกได้อย่างสวยงาม และในปี 2016-17 ก็จบที่อันดับ 4 ของตารางได้อย่างสมศักดิ์ศรี

คูตินโญ่ เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ปัจจุบันเล่นให้สโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูล เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลด้วยอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น ภายใต้การดูแลของศูนย์ อคาเดมี่ ของ วาสโก ดา กาม่า คูตินโญ่ เริ่มฉายแววเมื่อติดเป็นผู้เล่นตัวจริงให้กับ วาสโก ดา กาม่า และติดทีมชาติ บราซิล U17 หลังจากติดทีมชาติเขาได้โชว์ฟอร์มความสามารถอย่างสุดฤทธิ์ จนทำให้ อินเตอร์ มิลาน ขวักเงิน 3.23 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัวเขาไปเป็นทัพเสริมให้กับทีม แต่ทว่าชีวิตของเขาไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง จึงได้ระหกระเหินไปอยู่กับ เอสปันญ่อล ด้วยสัญญายืมตัว จนกระทั่งต้นปี 2013 เขาถูกขายให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 11.05 ล้านปอนด์ จึงทำให้เขาได้กลับมาโชว์ฝีแข้งอีกครั้ง และด้วยความสามารถที่โดดเด่นจึงทำให้เขาเล่นในตำแหน่งกองกลางเป็นตัวจริงกำลังสำคัญของสโมสร จนทำให้ตอนนี้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่น่าจับตามองที่สุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


ผลงาน รางวัล ฟิลิปเป้ คูตินโญ่


  • PFA Fans' Player of the Month: กุมภาพันธ์ 2015
  • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 2014–15
  • UEFA Europa League Squad of the Season: 2015–16
  • นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2014–15, 2015–16
  • Liverpool FC Players' Player of the Year: 2014–15, 2015–16
  • Samba Gold Award (Samba d'Or): 2016
  • ผู้ทำประตูสูงสุดของลิเวอร์พูล: 2016–17
  • ผู้ทำประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: (2014–15: เจอกับ เซาแทมป์ตัน ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2015), (2015–16: เจอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 17 มีนาคม 2016)
  • ฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี: (2014–15: เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในวันที่ 1 มีนาคม 2015), (2015–16: เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015)
  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2012–13
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจากสมาคมกองเชียร์ผู้พิการ: 2014–15, 2015–16
  • Liverpool Player of the Month Award (12): มีนาคม 2013, เมษายน 2013, ตุลาคม 2014, ธันวาคม 2014, มกราคม 2015, กุมภาพันธ์ 2015, เมษายน 2015, สิงหาคม 2015, พฤศจิกายน 2015, มีนาคม 2016, ตุลาคม 2016, เมษายน 2017
  • ผู้ทำประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์ (9): กุมภาพันธ์ 2015, มีนาคม 2015, เมษายน 2015, สิงหาคม 2015, ตุลาคม 2015, กุมภาพันธ์ 2016, มีนาคม 2016, สิงหาคม 2016, ตุลาคม 2016

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เปิดวาป “แบร์นาโด้ ซิลวา” แข้ง เรือใบสีฟ้า คนแรก


แบร์นาร์โด้ ซิลวา กองกลางทีมชาติโปรตุเกส แข้งใหม่รายแรก เตรียมฟิตลงฤดูกาล2017-18


ชื่อในประเทศบ้านเกิด : Bernardo Mota Veiga de Carvalho e Silva

ชื่ออังกฤษ : Bernardo Silva

ชื่อไทย : แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ค่าตัวโดยประมาณ 34 ล้านปอนด์

วันเกิด : 10 สิงหาคม 1994 อายุ : 22 ปี

ส่วนสูง : 1.73 เมตร

สัญชาติ : โปรตุเกส

สวมเสื้อเบอร์ : 20

ตำแหน่ง : กองหน้า - ตัวริมเส้นด้านขวา

ถนัดเท้า : ซ้าย

เซ็นสัญญาเมื่อ : 1 กรกฎาคม 2017

สิ้นสุดสัญญา : 30 มิถุนายน 2022

สโมสรเดิม : โมนาโก

ปัจจุบันสังกัดทีมชาติ : โปรตุเกส


แบร์นาร์โด้ ซิลวา เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในระดับเยาวชนให้กับ เบนฟิก้า ตั้งแต่ที่อายุได้เพียง 8 ขวบเท่านั้น ก่อนจะพัฒนามาติดทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า ได้สำเร็จ และในฤดูกาล 2013/14 เจ้าตัวก็แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวด้วยการพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ซึ่งในฤดูกาลนั้น ซิลวาซัดไป 7 ประตู จาก 38 นัด ในเกมลีกฤดูกาลแรก ซึ่งนั่นทำให้เจ้าตัวได้รับรางวัลนักเตะที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมประจำปี


ปัจจุบัน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จัดการคว้าตัว แบร์นาร์โด้ ซิลวา มาเสริมทัพเป็นรายแรก ด้วยค่าตัว 43 ล้านปอนด์ โดยมีพันธสัญญา โดยจะได้สวมเสื้อหมายเลข 20 นั่นเอง

วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นายทวารจอมหนึบ "ดาบิด เด เคอา" หวังเป็นตำนานผีแดงคนต่อไป




ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูชาวสเปน เกิดที่เมือง มาดริด, สเปน วันที่ 7 พฤศจิกายน 1990 สูง 192 เซนติเมตร หนัก 76 กิโลกรัม ลงเล่นมาทั้งหมด 275 นัด ถนัด เท้าขวา ย้ายเข้ามาแมนเชส เตอร์ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2011 จากทีมแอตฯมาดริด นัดแรกได้โชว์ผลงานพบกับ ชิคาโก้ ไฟร์

ดาบิด เด เคอา เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ แอตเลติโก มาดริด เยาวชน ด้วยอายุเพียง 10 ขวบ จากนั้นเจาก็ติด แอตเลติโก มาดริด ในดิวิชั่น B ด้วยความสามารถบวมกับรูปร่างที่สูงใหญ่ ทำห้เขาก้าวสู่นักฟุตบอลอาชีพได้อย่างรวดเร็ว แล้วเหมือนโชคจะเข้าข้าง เมื่อ โรแบร์โต้ มือกาวรุ่นพี่ ได้รับบาดเจ็บทำให้ เด เคอา ได้มีโอกาสได้ลงเล่นแทน และเขาก๋ได้โชคฝีมือที่ร้ายกาจออกมาจนยึดตำแหน่งมือกาวตัวจริงของทีมได้

ข่าวได้แพร่กระจายไปถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนกระทั่งมีแมวมองจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนใจในตัวเขาอยากได้ไปประจำเสาแทนผู้รักษาประตูคนเดิม จนในที่สุดของช่วงปลายฤดูกาล 2010/11 เด็กหนุ่มชาวสเปนวัย 20 ปี ก็ได้ตกลงทำสํญญากับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และถูกขายด้วยราคา 19 ล้านปอนด์

นับว่าเป็นครั้งแรกที่ ดาบิด เด เคอา ต้องจากบ้านมาไกล เขาได้รับใช้ต้นสังกัดด้วยความลำบาก ทั้งในด้านของภาษา ที่เจ้าตัวไม่ถนัดอย่างแรง เรื่องอาหารการกิน เรื่องการปรับตัว เรื่องสภาพสังคมที่ต่างจากประเทศบ้านเกิดอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงเรื่องสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่เรื่องที่ทำให้หนักใจที่สุดคงเป็นเรื่องที่ เขาโดนตราหน้าว่าเป็นตัวเลือกที่ผิดพลาด หวังขึ้นแท่นแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จนทำให้เขาถูกแฟนบอลตั้งแง่รังเกียจ

“คุณเคยดู เอ็ดวินเล่นบอลตอนอายุ 20 หรือเปล่า กว่าเขาจะมาอังกฤษ ก็ปาเข้าไป 32 แล้ว แต่ ดาบิด มาที่นี่ตอนอายุ 20 เพื่อมาอยู่กับเรา แล้วคุณคาดหวังอะไร ตอนนี้เขาทำได้ดีกว่าที่คุณคาดแล้ว อาจดีกว่าเอ็ดวินตอนอายุ 20 ด้วยซ้ำ เรื่องนั้นไม่มีใครรู้หรอก”


นี่คือคำพูดเด็ดจากปาก อีริค สตีล ที่เหวี่ยงใส่สื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของ เด เคอา จนทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องออกมาขอบคุณ จนในที่สุด เด เคอา กลายเป็นผู้รักษาประตู เบอร์หนึ่ง ของทีม จนถึงตอนนี้ ล่วงเลยมากว่า 6 ปีแล้ว ที่ ดาบิด เด เคอา ได้รับการยอมรับในฐานะผู้รักษาประตูอันดับ 1 ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นหมายถึง เขาลงสนามรับใช้ทัพ “ปีศาจแดง” มาแล้ว 275 นัด รวมถึงที่เขาพร้อมจะแบกภาระผู้เฝ้าเสาในถิ่น “โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ต่อไปเพื่อก้าวไปสู่ตำนานแห่งผีแดงคนต่อไป

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

“ซลาตัน อิบราฮิโมวิช” กองหน้า “ผีแดง” นักเตะอันดับ 3 ของโลก

“ปีศาจแดง” คว้า แชมป์ ยูโรปา ลีก ส่งผลให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกของทีมเป็นนักเตะอันดับ 3 ของโลก ที่คว้าโทรฟี่ได้มากที่สุด

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช นักเตะกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นแท่นแข้งอันดับ 3 ของโลกที่สามารถคว้าแชมป์ได้มากที่สุดในโลก หลังทีม “ปีศาจแดง” คว้า แชมป์ ยูโรปา ลีก จากการลงเล่น 11 แมตซ์ ทำประตูได้ 5 ประตู แอสซิสต์ 4 ลงเล่นทั้งหมด 897 นาที จึงส่งผลให้เขาเป็นนักเตะที่คว้าโทรฟี่ได้มากที่สุด รวมทั้งสิ้น 33 รายการ จาก 7 ใน 8 สโมสร เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น

ทำเนียบแชมป์ 33 รายการของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

  • 2 – เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์: 2001-02, 2003-04
  • 1 – ดัตช์ คัพ: 2001-02
  • 1 – ดัตช์ ซูเปอร์ คัพ: 2002
  • 6 – เซเรีย อา: 2004-05, 2005-06, 2006-07, 2007-08, 2008-09, 2010-11
  • 3 – ซูเปอร์ โคปปา อิตาเลีย: 2006, 2008, 2011
  • 1 – สแปนิช ซูเปอร์ คัพ: 2009
  • 1 – ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ: 2009
  • 1 – คลับ เวิลด์ คัพ: 2009
  • 1 – ลา ลีกา สเปน: 2009-10
  • 1 – สแปนิช ซูเปอร์ คัพ: 2010
  • 4 – ลีก เอิง ฝรั่งเศส: 2012-13, 2013-14, 2014-15, 2015-16
  • 3 – โทรฟี่ เดส์ แชมเปี้ยน: 2013, 2014, 2015
  • 3 – กูป เดอ ลา ลีก: 2014, 2015, 2016
  • 2 – กูป เดอ ฟร้องซ์: 2015, 2016
  • 1 – คอมมิวนิตี้ ชิลด์: 2016
  • 1 – ลีก คัพ: 2017
  • 1 – ยูโรปา ลีก: 2017

ถึงแม้ว่าเขาจะคว้ารางวัลได้มากมาย แต่ยังคงมีอีกรางวัลที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัส นั่นก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึงแม้ว่าตอนนี้เอง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช อายุจะปาเข้าไปวัย 35 ปีแล้ว โอกาสจะที่จะทำความฝันให้สำเร็จก็มีน้อยเหลือเกิน หากเขารักษาอาการบาดเจ็บที่เข่าให้หายดีเป็นปกติ เชื่อว่า ปีศาจแดง แมนฯยู คงได้เขากลับมาผงาดตามฝันในศึกครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน